usb controller ทุกวันนี้เป็น usb2.0 อยู่แล้ว แต่สัญญาณหลังจากออกจาก M/B แล้ว สามารถวิ้งได้ถึง 480Mbps หรือไม่
ก็อยู่ที่ถนนหนทางดีหรือเปล่า ถ้าถนนดีมาก perfect ก็อาจจะวิ่งได้เร็ว หมายความว่าโอนถ่ายข้อมูลได้เร็ว อาจจะ 300 400 450 ก็ว่าไป
แต่ถนนไม่ดี ก็วิ่งช้า อาจจะ 50 100 120 ก็ว่าไป
ส่วนเส้นทางในการวิ่งที่ว่านี้ก็คือ สายต่อ usb จาก port หน้าเคสไปถึง M/B
ซึ่งที่เราเจอก็คือมี 2 แบบ
1.แบบสายแพ
2.แบบสาย shield
ส่วนสาย 2 แบบนี้ต่างกันอย่างไร
สมัยก่อนที่ไช้ usb controller 1.1 ก็คือเป็น M/B usb1.1 สายต่อ usb จาก port หน้าเคสไปถึง M/B มักจะไช้ สายแพ
แต่สมัยนี้เป็น usb controller 2.0 ควรไช้ สายต่อ usb จาก port หน้าเคสไปถึง M/B แบบสาย shield
มิฉนั้นจะทำให้โอนถ่ายข้อมูลช้า เหมือนเรามีรถ sport 1 คัน สามารถเร่งความเร็วได้ถึง 250KM/h แต่เราขับอยู่บนถนนโคลนดินที่ขรุขระ คุณคิดว่าสมรรถนะของรถคันนี้ได้แสดงออกมาเต็มที่ไม๊ครับ
ถามว่า สายแพกับสาย shield มีความแตกต่างอย่างไร
เราต้องเล่าถึงมาตรฐาน usb1.1กับ usb2.0 ความถึ่ไม่เท่ากัน usb2.0 มีความถี่สูงกว่า usb1.1 มากๆ
ส่วนสายแพและสาย shield
คือความถี่ในการ Test จะไม่เท่ากัน หมายความว่าสาย 2 แบบนี้รองรับโอนถ่ายข้อมูลที่มีความถี่สูงไม่เหมือนกัน
ถ้าจำไม่ผิด สายแพ Test แค่ถึง ประมาณ 96 MHz
แต่สาย shield Test ถึง ประมาณ 400 MHz
อีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องก็คือ
สาย HDD แบบเก่าเป็นสายแพ IDE จะเร็วกว่า Serial ATA นะ(ถ้าความถี่เท่ากัน) แต่มีปัญหาว่าสายแพรองรับความถึ่สูงไม่ได้นะครับ ถ้าจำไม่ผิด สาย IDE เมื่อก่อนมากที่สุดแค่ 133MHz ถ้ามากกว่านั้น สัญญาณแต่ละสายจะกวนกันเป็นอย่างมาก เพราะฉนั้นเพิ่มความถี่ไม่ได้อีกแล้ว เพิ่มความเร็วก็ถึงทางตันแล้ว ยุคสายแพ IDE ก็ต้องปิดฉากลง มาพัฒนา Serial ATA แทน รู้สึกว่า SATA มีความถี่เป็น 1500MHz~3000MHz ดูสิกี่เท่าของ IDE ความถี่ 30 เท่า สายแพเสร็จแน่
สรุปทั้งหมด:
สายแพไม่สามารถรองรับการโอนถ่ายข้อมูลที่มีความถี่สูงอย่างเสถียร แต่สาย shield มีีคุณสมบัติที่ป้องกันสัญญาณรบกวน จึงสามารถรองรับการโอนถ่ายข้อมูลที่มีความถี่สูงอย่าง usb2.0